มาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานกับระบบไฟฟ้า NFPA 70E คืออะไร
NFPA 70E คือมาตรฐานที่ได้รับการออกแบบด้วยสมาคมป้องกันอัคคีภัยแห่งชาติ (NFPA) ซึ่งมีไว้สำหรับการรับมือและปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า โดยประโยชน์ของมาตรการนี้คือการปกป้องผู้ปฏิบัติงาน ลดความเสี่ยงที่เกิดจากอันตรายจากไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น ไฟฟ้าลัดวงจร ไฟฟ้าช็อต ไฟฟ้ารั่วไหล นอกจากนี้มาตรการนี้ยังช่วยอบรมให้พนักงานที่มีความเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม เข้าใจถึงความอันตรายของการทำงานกับไฟฟ้า และรู้จักกับวิธีรับมือในกรณีฉุกเฉิน
NFPA 70E ต่างจาก NEC อย่างไร ?
หากคุณไม่ได้เป็นช่างไฟฟ้าหรือวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านไฟฟ้า ไม่แปลกเลยที่คุณจะสับสนระหว่าง NFPA 70E และ NEC ซึ่ง NEC นั้นคือมาตรฐานการออกแบบระบบไฟฟ้า ส่วน NFPA 70E คือหมวดหมู่แยกย่อยอีกที ซึ่งจะกล่าวถึงความปลอดภัยในการใช้งานนั่นเอง
เนื่องจาก NFPA 70E นั้นคลอบคลุมความปลอดภัยด้านไฟฟ้าภายในที่ทำงาน จึงสามารถใช้มาตรฐานนี้กับธุรกิจได้เกือบทุกรูปแบบเลย ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายของชำ มหาวิทยาลัย ร้านกาแฟ ร้านอาหาร แต่ประเภทของธุรกิจที่ใช้ NFPA 70E มากที่สุดนั่นก็คืออุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น สายงานผลิต โรงงาน คลังสินค้า ไซต์งานก่อสร้าง
NFPA 70E นั้น จะพุ่งเป้าไปที่ขอบเขตค่อนข้างแคบและเฉพาะเจาะจง โดยมุ่งเน้นไปที่อันตรายสามประเภท ได้แก่
- Arc-Flash ประกายไฟฟ้า ซึ่งเป็นแสงที่มีความจ้าสูงมาก ๆ อีกทั้งยังมีความร้อนสูงถึงขั้นสามารถทำอันตรายกับร่างกายของมนุษย์ได้เลย
- Arc-blast การระเบิดที่เกิดจากพลังงานไฟฟ้าสูง ซึ่งมีอันตรายต่อชีวิต และอันตรายกว่าประกายไฟฟ้าอย่างมาก มีความร้อนมากพอจนทำให้เกิดวัตถุละลาย
- Electrocution อันตรายจากไฟฟ้า ไฟฟ้าช็อต ไฟดูด ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น อุปกรณ์ทำงานผิดพลาด ไฟฟ้าลัดวงจร สายไฟเสียหาย เครื่องใช้ไฟฟ้าสัมผัสกับน้ำ ฟ้าผ่า ฯลฯ
มาตรการความปลอดภัยสำหรับการทำงานกับไฟฟ้า
แน่นอนว่าการทำงานกับระบบไฟฟ้านั้นมีความอันตรายอย่างมาก มีความเสี่ยงมากมายหลายอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงเกิด NFPA 70E ขึ้นมา โดยมีมาตรการที่สำคัญหลัก ๆ ตามนี้เลย
ทำให้แน่ใจว่าปิดเครื่องแล้ว
หากระบบไฟฟ้าภายในโรงงานของคุณยังไม่ได้ติดตั้งระบบ Lockout / Tagout หรือที่เรียกว่า LOTO ควรติดตั้งในตอนนี้เลยทันที เพราะระบบ LOTO นั้นจะสามารถช่วยป้องกันโอกาสที่พนักงานของคุณจะได้รับบาดเจ็บสาหัสรวมไปถึงการเสียชีวิตได้ หลักการทำงานของ LOTO นั้นก็ง่ายมาก คือการจะสามารถล็อคหรือปิดเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงได้ก็ต่อเมื่อคุณนำแท็กมาติดไว้ด้วย เพื่อเตือนพนักงานคนอื่นว่าเครื่องกำลังซ่อมอยู่ ห้ามใช้งาน
และเมื่อคุณซ่อมแซมเสร็จแล้ว ก่อนเริ่มทำงานจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องปิดอย่างแท้จริงแล้ว ไม่มีการเชื่อมต่อแหล่งพลังงานใด ๆ และไม่มีพลังงานหลงเหลืออยู่ โดยวิธีการตรวจสอบนั้นก็มีหลายอย่าง เครื่องมือบางเครื่องอาจจะมีไฟแจ้งเตือนหากมีพลังงานหลงเหลืออยู่ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ไขควงเช็คไฟเพื่อเช็คได้อีกด้วย
ไม่ลืมที่จะสวมใส่ PPE
แน่นอนว่าการสวมใส่ PPE นั้นเป็นมาตรการพื้นฐานที่ไม่ว่าคุณจะทำงานกับอะไร อันตรายแค่ไหน ก็ต้องไม่ลืมที่จะสวมใส่เสมอ เพื่อความปลอดภัยของตัวบุคคลเอง ซึ่งในวันนี้เราก็จะแนะนำซ้ำอีกรอบ ว่าคุณห้ามลืมที่จะสวมใส่ PPE เด็ดขาด โดยเฉพาะ PPE เหล่านี้
- เสื้อผ้าเส้นใยธรรมชาติที่จะไม่ละลายจากความร้อน
- ถุงมือยางหุ้มฉนวนกันไฟฟ้า และอุปกรณ์ปกป้องผิวหนัง
- หมวกนิรภัยคลาส G หรือ E
- หน้ากากเซฟตี้ที่มีกระบังหน้า
- แว่นตานิรภัย
- รองเท้าหุ้มฉนวนกันไฟฟ้า
สุดท้ายนี้ ความสำคัญของ NFPA 70E นั้นคือการปฏิบัติตามข้อกำหนดทุกอย่างอย่างเคร่งครัด เข้าใจถึงความสำคัญของมาตรการทุกข้อ อย่าลืมที่จะอบรมและสื่อสารอย่างถูกวิธีต่อบุคลากร และจัดให้มีการอบรมเป็นประจำ มีผู้เชี่ยวชาญควบคุมการฝึกอบรมทุกครั้ง
